วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

กรรมทันตา

ย้อนไปประมาณ 30 ปีก่อน ในซอยวัดโพธินิมิตร ตลาดพลู ซอยนี้เป็นซอยใหญ่พอสมควร มีวัดอยู่กลางซอย รถยนต์เข้าถึงแค่วัด พอเลยไปหน่อยถนนแคบสวนกันได้แค่มอเตอร์ไซค์ สมัยก่อนยังไม่มีวินมอไซค์ หรือผู้มีอิทธิพลอย่างปัจจุบัน แต่ก็มีคนพาลประเภทเกเร ชอบรังแกคนอ่อนแอกว่าอยู่เสมอ นายเปี๊ยก เป็นคนรูปร่างเล็กสันทัด อายุประมาณ 30-35 ปี อยู่ซอยนี้มาตั้งแต่เกิด นิสัยอันทพาล ผ่านคุกตะรางมาหลายหลาก ชอบมั่วสุมอยู่กับวงเหล้า และบ่อนการพนัน แต่สมัยนั้นไม่ใช่บ่อนใหญ่โตแบบสมัยนี้ ชอบอวดศักดาด้วยการชกต่อยเด็กวัยรุ่นที่อายุน้อยกว่า ทำตัวอวดเบ่งว่าข้านี้เจ๋ง ใครหน้าไหนจะลองดีบ้าง ไม่รู้เพื่ออวดสาวหรือเปล่า.... นายเปี๊ยก บ่อยครั้งที่เมาเหล้าแล้วอาละวาดชกต่อย เป็นประจำ หมดเงินก็ไปไถเงินแม่ที่ขายข้าวแกงอยู่ในซอยนี้เหมือนกัน ชาวบ้านในซอยนี้เอือมระอา แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่หลบๆ ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ผมเองซึ่งเป็นเด็กรุ่นหลัง ก็ยังเคยถูกนายเปี๊ยก ชกคว่ำกลางซอย ต่อหน้าคนมาแล้ว แต่เขามีนิสัยอย่างหนึ่งซึ่งน่าทุเรศมาก คือชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่าเป็นเรื่องสนุก โดยเฉพาะคนที่ไม่มีทางสู้ ที่วัดโพธิ์ฯ มีเด็กวัดคนหนึ่งชื่อ ไอ้อ่อน...อายุประมาณ15 ปี ที่ได้ชื่อนี้เพราะเป็นเด็กปัญญาอ่อนหน่อยๆ พูดไม่ค่อยได้ แต่ไม่ถึงกับเป็นใบ้ รูปร่างผอมๆ ขี้กลัว ไม่สู้คน สงสัยวัยเด็กเคยถูกทารุณมาก่อน ไม่รู้เซซังมาจากไหนจนมาอยู่ที่วัดนี้ มีหน้าที่คอยกวาดขี้หมา หรืองานสารพัดแล้วแต่ใครจะเรียกใช้ ไอ้อ่อน มีนิสัยว่าง่าย ใครสั่งใครใช้ให้ทำอะไรก็ทำ แต่ไม่ไปไหนวนเวียนอยู่แถวๆ วัด กินข้าวก้นบาตรเป็นหลัก คอยดูแลหมา แมวในวัด ชาวบ้านก็ให้ของกินบ้าง เสื้อผ้าบ้าง ซึ่งทุกครั้งไอ้อ่อนก็จะแสดงความขอบคุณ และรู้บุญคุณออกมาทางสายตาและกริยาอาการนอบน้อมเสมอ ไอ้อ่อน คงทำกรรมบางอย่างไว้จึงต้องมาเป็นอย่างนี้ และยังมีกรรมอีกอย่างคือ มักจะถูก นายเปี๊ยก อันธพาลประจำซอยรังแกเป็นประจำ ถ้าเดินมาเจอกัน นายเปี๊ยกก็จะเดินเข้าไปตบหัวบ้าง เตะเล่นบ้าง ดุด่าระบายอารมณ์ต่างๆ นาๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม... พระสงฆ์ท่านก็เคยห้ามปราม ขอให้สงสารมัน อย่ารังแกมันเลย แต่ก็เท่านั้น ไม่รู้ไอ้คนอย่างนี้ทำไมเวรกรรมถึงไม่สามารถทำอะไรได้ เหตุการณ์ก็เป็นอย่างนี้เป็นปีๆ ………………… กระทั่งวันหนึ่งตอนค่ำ นายเปี๊ยก ไม่รู้ไปกินเหล้าเมามาจากไหน เดินผ่านวัดมาเจอกับ ไอ้อ่อน ที่กำลังเก็บกวาดวัดอยู่คนเดียว นายเปี๊ยก ก็ตรงเข้าไปหาเรื่องดุด่า ตบหัว ตามเคยเพราะเห็นว่ามันไม่สู้ แต่...ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น คราวนี้ ไอ้อ่อน มันหันมาจ้องหน้า นายเปี๊ยกก็ยิ่งโมโหใหญ่ ลงมือลงเท้ากระทืบ... ไอ้อ่อน หันไปคว้าไม้หน้าสามได้มาอันหนึ่ง ขึ้นมาถือไว้ นายเปี๊ยก เห็นก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เข้าไปเตะต่อย พร้อมด่าว่า ที่บังอาจสู้ทั้งๆ ที่ตัวเท่าลูกหมา คงเป็นเวรกรรมมาถึง ไอ้อ่อนกลับฮึดสู้ เอาไม้หน้าสามฟาดไปหลายครั้ง นายเปี๊ยกเห็นท่าไม่ดี ประกอบกับเมาหน่อยๆ ด้วย เลยวิ่งหนีเอาดื้อๆ แต่ไอ้อ่อน ก็วิ่งตามมาทันที่มุมกำแพงวัด คนที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ผ่านมา ได้ยินเสียงร้องโหยหวน จึงวิ่งเข้าไปดู เห็นไอ้อ่อนมันตีไม่ยั้ง นายเปี๊ยกยกแขนขึ้นปิดป้อง ไอ้อ่อนก็ตีด้วยไม้หน้าสาม สุดแรง ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ฟาดแล้ว ฟาดอีก ด้วยฤทธิ์คนบ้า กว่าจะวิ่งไปตามคนมาช่วยกันห้ามได้ นายเปี๊ยกก็มีสภาพปางตาย กระดูกหักเกือบทั่วตัว หัวแตกเลือดอาบ นอนจมเลือดหมดสภาพ ไอ้อ่อน ถูกตำรวจจับส่งสถานบำบัด จนบัดนี้ก็ไม่มีใครเคยพบอีก นายเปี๊ยก ไม่ยักกะตาย รักษาตัวอยู่ประมาณปีกว่า กลับมาในสภาพพิการ แขนขาที่หักหมดก็ดีขึ้น แต่มีอาการคล้ายคนเป็นโปลิโอ เวลาเดินขโยกขเยก เหมือนดาวตลก คุณอ่างเถิดเทิงไม่มีผิด แต่ก็กลับมาอยู่ในซอยวัดโพธิ์ฯ เพราะไม่มีที่ไป คนในซอยที่เคยเอือมระอา เมื่อเห็นก็ได้แต่ปลง และอโหสิ แต่ก็มีพวกเพื่อนนักเลงเหล้า นักเลงอันธพาลด้วยกัน ก็หัวเราะเยาะ ตบหัว รังแกเขาเหมือนกัน จนสุดท้ายทนไม่ไหว ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น.. หวังว่าท่านที่ได้อ่านเรื่องนี้ จะได้สบายใจว่า กรรมไม่ได้ชักช้า แต่ก็สนองคนที่ทำกรรมไว้ทันตาเห็น จริงๆ อนณ 089-995-9377

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น